ตะลุยเที่ยววัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี กับ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่
Amazing Road Trips with All New Pajero ยังอยู่กันที่จังหวัดกาญจนบุรีครับ คราวนี้เราจะพาไปชมความสวยงามของวัดถ้ำเสือ ซึ่งมีพระองค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัด และมีเจดีย์ที่สวยงามและโดดเด่น เพราะตั้งอยู่บนเขา และไปย้อนอดีตช่วงที่เหมืองยังบูมกับการเที่ยวชมเหมืองปิล๊อก ปิดท้ายด้วยการชมวิวสวยๆ ที่เนินช้างศึกกันนะครับ
ข้อมูลแนะนำสถานที่
วัดถ้ำเสือเดิมเป็นเพียงสำนักสงฆ์เล็กๆ แต่ต่อมาด้วยแรงศัรทธาจากชาวบ้าน ก็ได้ขยายจนเป็นวัดที่ใหญ่โตและงดงามครับ ส่วนที่เป็นถ้ำจะแบ่งออกเป็น 4 ห้อง หากอยากจะนมัสการหลวงพ่อชินประทานพรและพระเจดีย์ จะต้องเดินขึ้นด้านบน และยังมีพระสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ในพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท และสามารถชมวิวแบบ 360 องศาของลำน้ำแม่กลองและทุ่งนาเขียวขจีครับ
เหมืองปิล๊อกเป็นเหมืองแร่เก่ากว่า 70 ปี การทำเหมืองที่นี่เริ่มจากการที่นายพรานชาวไทยไปเห็นการขุดหาแร่ของชาวพม่า เมื่อปี พ.ศ. 2481 กรมโลหกิจ องค์การเหมืองแร่ จึงมาสำรวจและพบว่ามีแร่ดีบุกและวุลแฟรมอยู่มาก และยังมีทังสะเตนและทองคำปะปนอยู่ จึงได้มีการตั้งเหมืองในปี พ.ศ. 2483 ครับ หลังจากนั้นก็มีเหมืองเกิดขึ้นมากมาย ทั้งถูกกฎหมายและเถื่อน รวมไปถึงการแอบขุดของคนไทยและคนพม่า ทำให้ทางการต้องออกปราบปราม ทั้งการทำเหมืองเองก็อันตราย จึงมีคนตายเป็นจำนวนมาก เลยเรียกกันว่าเหมืองผีหลอกและเพี้ยนเป็นปิล๊อกครับ จวบจนกระทั่งปี พ.ศ. 2527 จีนได้ปล่อยดีบุกออกมามาก บวกกับการใช้พลาสติกที่เพิ่มขึ้น เหมืองในละแวกนี้จึงทยอยปิดตัวลง ส่วนเนินช้างศึกเป็นฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,053 เมตร มีบ้านพักเจ้าหน้าที่และลานจอดเฮลิคอปเตอร์ครับ
กิจกรรมที่คุณต้องลอง
- ที่วัดถ้ำเสือ ในศาลาการเปรียญสามารถนมัสการสังขารหลวงปู่ชื่น ที่บรรจุอยู่ในโลงแก้ว ท่านเป็นผู้บูรณะปฏิสังขรณ์วัด ที่ศาลายังประดิษฐานรูปหล่อเจ้าอาวาสหลวงพ่อสิงห์ ซึ่งเป็นผู้ธุดงค์มาพบถ้ำเสือ ในถ้ำที่แบ่งออกเป็น 4 ห้อง ประดิษฐานพระประธาน 2 ห้อง และมีองค์เจ้าแม่กวนอิมอยู่ด้วยครับ จากนั้นจะต้องเดินขึ้นบันไดนาคที่มีจำนวน 157 ขั้น ชันประมาณ 60 องศา หรือใครไม่ไหว จะนั่งรถรางไฟฟ้าไปกลับก็ได้นะครับ ค่าตั๋วแค่ 10 บาทครับ ขึ้นไปแล้วก็นมัสการพระชินประทานพรก่อนนะครับ แล้วค่อยไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุในพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท
- อุโมงค์เหมืองแร่สามารถเข้าชมได้ครับ แต่ควรพกไฟฉายไปด้วย เพราะด้านในจะมืดมาก
- บนเนินช้างศึก สามารถสัมผัสหมอกและอากาศหนาวเย็น วิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกก็สวยงามนะครับ หากท้องฟ้าเปิด สามารถมองไปไกลถึงทะเลอันดามันฝั่งพม่าได้ ตอนกลางคืนก็ดูดาวและเห็นกลุ่มแสงไฟจากสถานส่งก๊าซในหุบเขาฝั่งพม่า
เตรียมตัวก่อนไป
- การเดินทางไปยังวัดถ้ำเสือค่อนข้างซับซ้อนครับ เพราะต้องผ่านเส้นทางแคบในเขตชุมชน และบางจุดป้ายบอกทางไม่ชัดเจน จุดสังเกตคือยอดของพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท
- บนเนินช้างศึกสามารถกางเต็นท์นอนได้ ถ้าเป็นช่วงพฤศจิกายน-มกราคมก็จะได้สัมผัสอากาศหนาว แต่ไม่มีบ้านพัก ร้านอาหาร หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ นะครับ จึงควรเตรียมอาหารและของใช้ไปให้พร้อม พร้อมกับอุปกรณ์กันหนาวกันฝนด้วย
- เส้นทางไปเหมืองปิล๊อกมีผิวถนนชำรุดเป็นบางส่วน ช่วงลงเขามีโค้งหักศอกหลายจุด ในขณะที่ทางขึ้นเนินช้างศึกเป็นหินกรวดบางจุด จึงควรขับรถด้วยความระมัดระวังนะครับ
เส้นทาง
ใช้เส้นทางหมายเลข 323 ข้ามเขื่อนแม่กลอง และวิ่งไปตามป้ายบอกทางไปวัดถ้ำเสือ ส่วนจะไปเหมืองปิล๊อกก็ใช้เส้นทาง 323 มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ระยะทางประมาณ 240 กิโลเมตรจากตัวเมือง จากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ทภ. 5 จะเป็นถนนแคบ สองข้างทางเป็นเหว จึงควรขับด้วยความระมัดระวัง และจะมุ่งหน้าไปยังเนินช้างศึกก็ขับจากตลาดปิล๊อกไปอีก 3 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางไปครับ

ขับขี่ปลอดภัย



สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติมที่
ททท. สำนักงานกาญจนบุรี
พื้นที่รับผิดชอบ: กาญจนบุรี ถ.แสงชูโต ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี 71000
โทรศัพท์: 0 3451 1200, 0 3451 2500
โทรสาร: 0 3451 1200
อีเมล: tatkan@tat.or.th
เว็บไซต์: www.tourismthailand.org/kanchanaburi